You are now reading:
คู่มือแนะนำวิธีป้องกันมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชี
แค่ฝากเงิน ฟรีประกัน 7 โรคมะเร็งในผู้หญิง รับความคุ้มครองทุกระยะ ตั้งแต่ตรวจพบ เจอ-จ่าย-จบ สูงสุด 2 ล้านบาท
รายละเอียดลงทุนในกองทุน United CIO Income Fund และ United CIO Growth Fund บริหารกองทุนโดย Chief Investment Officer จาก UOB Private Bank
เพิ่มเติมคุณกำลังอยู่ที่ ลูกค้าบุคคลทั่วไป
You are now reading:
คู่มือแนะนำวิธีป้องกันมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชี
หลาย ๆ คนคงได้ทราบข่าวเกี่ยวกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ ในยุคที่เทคโนลียีมีความทันสมัย ใช้งานง่าย และสะดวกรวดเร็ว ทำให้เหล่ามิจฉาชีพเห็นโอกาสที่จะใช้ช่องโหว่ของระบบออนไลน์ต่าง ๆ ในการก่ออาชญากรรมทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ความรู้เท่าไม่ถึงการหรือความไม่ระมัดระวังแม้เพียงน้อยนิดอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้อย่างง่ายดาย เช่น ถูกหลอกให้โอนเงิน หรือถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคารไปจนหมด เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เรามาดูกันว่าเหล่ามิจฉาชีพดูดเงินไปจากบัญชีเงินฝากของเราได้ด้วยวิธีใดบ้าง และวิธีการป้องกันการถูกดูดเงินจากบัญชีต้องทำอย่างไร
ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชีของเรา เราควรจะต้องทราบก่อนว่ามิจฉาชีพมีวิธีใดบ้างในการเข้าถึงบัญชีเงินฝากของเหยื่อ
ฟิชชิง เป็นหนึ่งในเทคนิคการหลอกลวงทางโลกออนไลน์ที่เป็นที่นิยมและพบได้บ่อยที่สุด ซึ่งมีเป้าหมายหลัก คือ การขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือรหัสผ่าน เพื่อนำไปใช้ในการเข้าสู่ระบบบัญชีออนไลน์ที่แท้จริง มิจฉาชีพจะใช้กลอุบายหลอกล่อผู้ใช้งานด้วยการแอบอ้างว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ธนาคาร หรือบัญชีโซเชียลมีเดีย เพื่อหลอกเหยื่อให้กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร
มัลแวร์ คือโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต มิจฉาชีพอาจใช้มัลแวร์ประเภท Keylogger เพื่อบันทึกการพิมพ์ของเหยื่อ รวมถึงรหัสผ่านและข้อมูลบัตรเครดิต หรือใช้ Trojan เพื่อเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ทำการดูดเงินออกจากบัญชี
ในการโจมตีแบบ MITM นั้น มิจฉาชีพจะแทรกตัวเข้ามาระหว่างการสื่อสารของเหยื่อกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งานอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเหยื่อใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่ปลอดภัย มิจฉาชีพสามารถดักจับข้อมูลที่มีการรับ-ส่ง รวมถึงข้อมูลการเข้าใช้งานและข้อมูลบัตรเครดิตได้ด้วย
Social Engineering หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Call Centre” เป็นเทคนิคที่มิจฉาชีพใช้หลอกล่อให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลสำคัญ โดยอาจแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐ และใช้จิตวิทยาเพื่อสร้างความกลัวหรือสถานการณ์เร่งด่วนฉุกเฉิน กดดันให้เหยื่อต้องตัดสินใจแบบกะทันหันโดยไม่ได้พิจารณารายละเอียดให้รอบคอบเสียก่อน
เมื่อเกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลจากองค์กรใหญ่ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้คนจำนวนมากอาจถูกนำไปขายในตลาดมืด บรรดามิจฉาชีพจะทำการซื้อข้อมูลเหล่านี้ จากนั้นก็นำไปใช้เพื่อเข้าถึงบัญชีของเหยื่อ โดยผู้ที่มักจะตกเป็นเหยื่อของวิธีการนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ใช้รหัสผ่านเดียวกันทุกบัญชีและทุกแพลตฟอร์ม
ตรวจสอบบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
ควรตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หากพบรายการที่น่าสงสัย ให้รีบแจ้งธนาคารทันที
ตั้งค่าการแจ้งเตือน
วิธีป้องกันการดูดเงินจากบัญชีที่สะดวกที่สุด คือ ใช้บริการแจ้งเตือน SMS หรืออีเมลจากธนาคาร เพื่อรับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมในบัญชี เมื่อเห็นว่ามีธุรกรรมที่ผิดปกติ ก็สามารถแจ้งธนาคารได้อย่างทันท่วงที
จำกัดวงเงินการใช้จ่าย
ตั้งค่าวงเงินการใช้จ่ายต่อวันหรือต่อครั้งให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อจำกัดความเสียหายหากบัญชีถูกแฮ็ก
ใช้โซเชียลมีเดียด้วยความระมัดระวัง
ระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปบนโซเชียลมีเดีย เนื่องจากมิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อคาดเดารหัสผ่าน รวมถึงคำตอบสำหรับคำถามความปลอดภัย
อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ
อัปเดตระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ใช้ VPN เมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สาธารณะ
หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินบน Wi-Fi สาธารณะ ในกรณีที่จำเป็นให้ใช้ VPN (Virtual Private Network) เพื่อเข้ารหัสการสื่อสารของคุณ
ใช้บริการล็อกบัญชีธนาคาร
ในปัจจุบัน ธนาคารต่าง ๆ มีบริการล็อกบัญชีธนาคาร ที่ทำให้ไม่สามารถโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่ยังสามารถรับเงินที่โอนเข้ามาได้ตามปกติ วิธีนี้นับได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงการถูกหลอกลวงให้ทำรายการโดยมิจฉาชีพ
เพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินในบัญชีได้ง่าย ๆ ด้วยบริการล็อกบัญชีเพื่อป้องกันการโอนเงินออกผ่านช่องทางออนไลน์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารยูโอบี สามารถสมัครบริการ UOB Money Lock ได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองที่สาขาธนาคารยูโอบี บริการ Live Chat บนแอปพลิเคชัน UOB TMRW หรือศูนย์บริการลูกค้ายูโอบี โทร. 0 2285 1555 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเองได้ที่นี่ UOB Money Lock
ข้อมูลอ้างอิง