You are now reading:
เลือกยืมเงินด่วนอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
แค่ฝากเงิน ฟรีประกัน 7 โรคมะเร็งในผู้หญิง รับความคุ้มครองทุกระยะ ตั้งแต่ตรวจพบ เจอ-จ่าย-จบ สูงสุด 2 ล้านบาท
รายละเอียดคุณกำลังอยู่ที่ ลูกค้าบุคคลทั่วไป
You are now reading:
เลือกยืมเงินด่วนอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ในบางช่วงเวลาของชีวิต หลาย ๆ คนอาจจะประสบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ และความจำเป็นในการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินก้อนแบบฉุกเฉิน “สินเชื่อส่วนบุคคล” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการยืมเงินด่วนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้บริการโดยธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ หลากหลายประเภทให้เลือกใช้บริการ แต่สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องพิจารณา ก็คือ แล้วเราควรจะเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างไรจึงจะตอบโจทย์ความต้องการ และเหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคตของเราด้วย แนวทางการพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลเมื่อต้องการยืมเงินด่วนมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย
ไม่ว่าการยืมเงินด่วนนั้นจะเป็นจำนวนเงินเท่าใด เช่น ยืมเงินฉุกเฉิน 5,000 ด่วน หรือยืมเงินฉุกเฉิน 50,000 ด่วน สิ่งที่สำคัญ คือ เราควรเลือกขอสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินหรือ Non-Bank ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกเอาเปรียบด้วยเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม และกระบวนการติดตามทวงหนี้ที่ไม่ถูกกฎหมายจากแหล่งเงินกู้นอกระบบได้ นอกจากนี้สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. มักจะมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายพร้อมให้บริการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ขอสินเชื่อ เนื่องจากมีสินเชื่อจำนวนมากให้พิจารณาเปรียบเทียบเมื่อต้องการยืมเงินฉุกเฉินนั่นเอง
นอกจากการพิจารณาเลือกขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากแหล่งเงินกู้ที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว การพิจารณา “อัตราดอกเบี้ย” เมื่อต้องยืมเงินด่วนก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย ในปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลไว้ที่ไม่เกิน 25% ต่อปี อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินหลายแห่งอาจมีการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่านี้ได้ เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกณฑ์เงื่อนไขที่แต่ละสถาบันการเงินกำหนดด้วย
ระยะเวลาการผ่อนชำระเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกยืมเงินฉุกเฉินจากสถาบันการเงินใด ๆ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ดีควรมีระยะเวลาการผ่อนชำระให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาการผ่อนชำระเบื้องต้นจะอยู่ที่ 12 เดือน และอาจนานสูงสุดได้ถึง 60 เดือน การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่นานขึ้นจะช่วยให้ค่างวดต่อเดือนลดลง ทำให้ภาระในการผ่อนชำระน้อยลงซึ่งง่ายต่อการบริหารจัดการ ในขณะเดียวกัน การผ่อนชำระที่นานขึ้น ก็หมายถึงดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายจะสูงขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ขอสินเชื่อจึงควรเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระ โดยพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองประกอบด้วย
ในกรณีที่จำเป็นต้องยืมเงินฉุกเฉินก้อนใหญ่ เราจำเป็นต้องพิจารณา “วงเงิน” ของสินเชื่อส่วนบุคคลประกอบการตัดสินใจด้วย โดยวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีดังนี้
รายได้หรือกระแสเงินสดหมุนเวียน เข้าบัญชีเงินฝากเฉลี่ยต่อเดือน |
วงเงิน |
---|---|
น้อยกว่า 30,000 บาท | ไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้หรือกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าบัญชีเงินฝาก เฉลี่ยต่อเดือนต่อผู้ให้บริการ (สูงสุดไม่เกิน 3 ผู้ให้บริการ) |
ตั้งแต่ 30,000 บาท | ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้หรือกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าบัญชีเงินฝาก เฉลี่ยต่อเดือน |
ตัวอย่าง ผู้มีรายได้หรือกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าบัญชีเงินฝาก 30,000 บาทต่อเดือน อาจจะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 150,000 บาท อย่างไรก็ตามการพิจารณาอนุมัติวงเงินนั้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ประวัติการชำระเงิน ภาระหนี้เดิมที่มีอยู่ รวมถึงนโยบายการให้สินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงิน แม้การได้รับวงเงินสูงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขอสินเชื่อ แต่การขอสินเชื่อเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองเป็นสิ่งที่ผู้ขอสินเชื่อควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ในปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งได้นำระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) มาช่วยในการพิจารณาสินเชื่อทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาทีเมื่อสมัครขอสินเชื่อผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการยืมเงินด่วน ทั้งนี้ระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่ออาจแตกต่างกันได้ตามเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน ผู้ขอสินเชื่อควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไขให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจสมัคร
บริการรวมยอดสินเชื่อ (Debt Consolidation) เป็นอีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งบริการรวมยอดสินเชื่อนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีหนี้หลาย ๆ ก้อน หรือมีหนี้ที่มาจากหลาย ๆ แหล่ง เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันการเงินอื่น ซึ่งการนำหนี้หลาย ๆ ก้อน หรือหนี้จากหลาย ๆ แหล่งมารวมเป็นหนี้ก้อนเดียวนี้ ช่วยให้การบริหารจัดการหนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อเงินด่วนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ขอแนะนำ สินเชื่อส่วนบุคคล ยูโอบี เอ็กซ์เพรส จากบริษัท ยูโอบี แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด (“บริษัท”) ไม่ว่าคุณจะต้องการกู้เงินสำหรับการใช้จ่ายส่วนตัว ปรับปรุงที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล การใช้จ่ายอเนกประสงค์ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต หรือบริการรวมภาระสินเชื่อ เราก็พร้อมที่จะเติมเต็มทุกความต้องการและวัตถุประสงค์ที่หลากหลายของคุณ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษา เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลได้ที่นี่ UOB Xpress
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อัตราดอกเบี้ย 9.99%-25% ต่อปี
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด