ความแตกต่างระหว่างบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต

ในปัจจุบันบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตเป็นที่รู้จักและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าความแตกต่างระหว่างบัตรทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นอย่างไร และควรเลือกใช้บัตรแบบใด วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับทั้งบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตมาฝาก เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้บัตรได้ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ได้มากที่สุด

รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตที่จะช่วยให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างบัตรทั้ง 2 ประเภทได้ดียิ่งขึ้น

1.บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต คืออะไร

บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลชนิดหนึ่งที่ออกโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรองโดยธนาคารแห่งชาติ ซึ่งบัตรทั้ง 2 ประเภท จะมีจุดเด่นตามชื่อที่ถูกเรียกและมีความแตกต่างกัน ดังนี้

• • บัตรกดเงินสด เป็นบัตรที่ออกมาเพื่อใช้สำหรับกดเงินสดโดยเฉพาะ ซึ่งวัตถุประสงค์หลัก คือ การแบ่งเบาสภาพคล่องยามฉุกเฉินในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม บัตรกดเงินสดบางประเภทสามารถนำไปรูดซื้อหรือผ่อนสินค้าได้เหมือนกับบัตรเครดิต

• บัตรเครดิต เป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อการสร้างเครดิตทางการเงิน โดยส่วนใหญ่มักจะใช้เพื่อรูดซื้อหรือผ่อนชำระสินค้าแทนเงินสดในลักษณะ ‘ซื้อก่อนชำระทีหลัง’ ตามวงเงินที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดให้ ซึ่งเราสามารถซื้อสินค้าหรือใช้จ่ายได้ภายในวงเงินที่กำหนด รวมถึงต้องชำระยอดใช้จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นอาจต้องชำระดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากยอดที่ค้างชำระตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดไว้นั่นเอง

2.อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตคิดเหมือนกันหรือไม่

สำหรับการใช้งานของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตจะมีการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ดังนี้

• • การคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด

เป็นการคิดตามจำนวนเงินจริงที่ถูกกดออกไปใช้ร่วมกับอัตราดอกเบี้ยแบบรายวันและเป็นแบบลดต้นลดดอก ซึ่งหากชำระคืนได้เร็วดอกเบี้ยที่ต้องเสียก็จะน้อยกว่านั่นเอง

ตัวอย่างเช่น เรากดเงินสดออกมาใช้ 2,000 บาท และนำมาคืน 10 วันให้หลัง โดยบัตรกดเงินสดคิดดอกเบี้ย 25% ดังนั้น จำนวนยอดที่เราจะต้องจ่ายคืนให้กับบัตรกดเงินสดนั้น คือ

ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม : 2,000 x 25% x 10 วัน / 365 = 13.70 บาท 

สรุปง่าย ๆ ก็คือหลังจากที่เรากดเงินสดไปใช้ 10 วัน ในวันที่ 10 จะต้องชำระเงินคืนทั้งหมด 2,013.70 บาทนั่นเอง

• การคิดดอกเบี้ยของบัตรเครดิต

สำหรับบัตรเครดิตนั้น หากจ่ายตรงเวลา แต่ชำระไม่เต็มจำนวน หรือที่เรียกกันว่า จ่ายแค่ยอดขั้นต่ำ ธนาคารจะมีการคิดดอกเบี้ยของเงินส่วนที่เราได้ใช้ไปล่วงหน้า โดยจะคำนวณจาก 2 ส่วน คือ ดอกเบี้ยที่คำนวณจากยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดและดอกเบี้ยที่คำนวณจากยอดคงค้าง

ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 มียอดซื้อของ 10,000 บาท ซึ่งบัตรเครดิตสรุปยอดค่าใช้จ่ายให้ทุกวันที่ 25 ของเดือน และกำหนดชำระเงินทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 20% ต่อปี แต่วันที่ 5 ของเดือนถัดมาเราจ่ายชำระขั้นต่ำ 10% คือ 1,000 บาท ดังนั้นดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่าย คือ

ดอกเบี้ยจากยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด (เงินต้น) : 10,000 บาท x 20% x 25 วัน / 365 = 136.99 บาท (ตั้งแต่วันบันทึกรายการ ถึง วันสรุปยอดค่าใช้จ่าย)

ดอกเบี้ยยอดคงค้าง 9,000 บาท x 20% x 21 วัน / 365 = 103.56 บาท (ตั้งแต่วันที่ชำระขั้นต่ำ ถึง วันสรุปยอดเดือนถัดไป)

สรุปคือในเดือนนั้นเราจะต้องเสียดอกเบี้ยทั้งหมดเป็นจำนวน 240.55 บาท อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยสามารถลดหลั่นลงไปตามเงินต้นที่เราจ่ายในแต่ละเดือนได้ เนื่องจากธนาคารใช้การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกนั่นเอง

3.บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต ใช้กดเงินสดได้หรือไม่

เนื่องจากบัตรกดเงินสดเป็นบัตรที่มีวัตถุประสงค์ใช้เพื่อกดเงินสดโดยเฉพาะอยู่แล้วจึงสามารถใช้กดเงินสดได้ ซึ่งโดยส่วนมากจะไม่เสียค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ยจะถูกคิดคำนวณตั้งแต่วันแรกที่กดเงินออกมาทันที ในขณะที่บัตรเครดิตก็สามารถกดเงินสดออกมาได้เช่นกัน แต่มักจะมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด และมีการคิดดอกเบี้ยแบบรายวัน

4.บัตรกดเงินสดสามารถใช้รูดซื้อสินค้าและใช้ผ่อนสินค้า 0% ได้เหมือนบัตรเครดิตหรือไม่

บัตรกดเงินสดสามารถใช้รูดซื้อสินค้าได้เหมือนกันกับบัตรเครดิต แต่ก่อนการใช้งานผู้ถือบัตรควรตรวจสอบกับร้านค้าที่ต้องการซื้อก่อนว่าสามารถใช้บัตรกดเงินสดรูดซื้อสินค้าที่ร้านนั้น ๆ ได้หรือไม่ โดยส่วนใหญ่แล้วทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดมักจะมีโปรโมชันที่สามารถรูดซื้อสินค้าและบริการแบบผ่อน 0% ได้ อย่างไรก็ตามผู้ถือบัตรอาจจะต้องสอบถามกับร้านค้าที่ต้องการซื้อด้วยว่ามีโปรโมชันการผ่อนจ่าย 0% หรือไม่ และสามารถผ่อนชำระคืนได้ในระยะเวลานานเท่าใด

5.สิทธิประโยชน์พิเศษจากการใช้บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต ต่างกันหรือไม่

สิทธิประโยชย์ที่จะได้รับจากการใช้บัตรทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้

• • สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับบัตรกดเงินสด สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้โดยมักมีวงเงินสูงและไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการกดเงิน รวมถึงยังสามารถผ่อนสินค้าและบริการแบบ 0% กับร้านค้า หรือสินค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย

• • สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับบัตรเครดิต เป็นบัตรที่สามารถใช้แทนเงินสดได้ ซึ่งนอกจากจะมีโปรโมชันผ่อนสินค้าและบริการแบบ 0% กับร้านค้า หรือสินค้าที่ร่วมรายการแล้ว ทุก ๆ การใช้งานสามารถสะสมคะแนน ใช้คะแนนแลกโค้ดส่วนลดหรือไมล์การเดินทาง รวมถึงสามารถแลก Cash back หรือเครดิตเงินคืนได้

สรุปความแตกต่างบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต เทียบให้ชัดว่าต่างกันอย่างไร

นอกจากนี้เรายังมีบัตรเครดิตหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมของคุณค้นหาบัตรเครดิตที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่ บัตรเครดิตจากธนาคารยูโอบี