ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
จับมือศิลปินไทยแปลงชุดยูนิฟอร์มเก่าเป็นผลงานศิลปะ
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับ วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินหญิงแถวหน้าของไทยผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ เปิดตัวแคมเปญ “Turning Trash to Treasured Art” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อความยั่งยืน Waste to Wonder ของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย โดยนำชุดยูนิฟอร์มสาขาเก่าจำนวน 4,903 ชุดมาอัปไซเคิลเป็นผลงานศิลปะจัดวางที่มีชื่อว่า “Clothespocalypse” และกระเป๋าใบใหม่หลากหลายแบบ ด้วยความคิดสร้างสรรค์และดีไซน์พิเศษโดยมีชุมชนผู้ตัดเย็บจากจังหวัดสมุทรสาครเป็นผู้ผลิต อาทิ กระเป๋าเป้ กระเป๋าถือ ถุงผ้าพกพา เคสสาหรับโน๊ตบุ๊ก กระเป๋าใส่ขวดน้ำ และกระเป๋าอเนกประสงค์ เป็นต้น พนักงาน ลูกค้าและผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าแบบที่ชื่นชอบได้ โดยรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่าย จะมอบให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก
นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะจัดการผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนของเรา การทำงานร่วมกับ WISHULADA ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการให้ชีวิตใหม่กับชุดยูนิฟอร์มแทนที่จะปล่อยทิ้งไปให้เป็นขยะในหลุมฝังกลบ ยังเป็นการสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย นับเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่นมั่นของธนาคารในการส่งเสริมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงบวกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็นับเป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ"
นางสาววิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ กล่าวว่า “เอ๋สร้างสรรค์ผลงานศิลปะทุกชิ้นจากวัสดุเหลือใช้ทุกประเภทเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะเอ๋เชื่อว่าพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ประกอบกับการวางแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นน้ำ เช่น กระบวนการผลิต จนถึงปลายน้ำ เช่น ผู้บริโภค เพื่อนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่จะช่วยลดปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่ถูกทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด เอ๋รู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมทำงานกับยูโอบีในโครงการนี้ เพราะนอกจากเอ๋จะรู้จักยูโอบีมานานในฐานะผู้สนับสนุนวงการศิลปะและศิลปินไทยแล้ว ยูโอบีเองยังให้ความสำคัญและช่วยสร้างความตระหนักรู้ในการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกองค์กร เอ๋หวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการใช้วัสดุเหลือใช้รอบๆ ตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
ผลงานศิลปะจัดวาง ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “Clothespocalypse” แสดงให้เห็นถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงประมาณ 1.2 พันล้านตันต่อปี[1] โดยศิลปินต้องการสื่อความว่า เราทุกคนต้องคิดและมีสติในการใช้ทรัพยากรทุกประเภทอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ผลงานศิลปะ “Clothespocalypse” จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึง 9 มิถุนายน 2566 ที่ชั้น 1 อาคาร ทาวเวอร์ ยูโอบี พลาซา กรุงเทพ สามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ชุมชนผู้ตัดเย็บจากจังหวัดสมุทรสาครยังได้ผลิตสินค้าอัปไซเคิล 8 แบบจากชุดยูนิฟอร์มเก่าในครั้งนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถชมผลงานตัดเย็บที่พิถีพิถัน ดีไซน์สวยและเลือกเป็นเจ้าของในแบบที่ชื่นชอบได้โดยรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่าย จะมอบให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็กเพื่อสมทบโครงการ Angel Miracle ปาฏิหารย์ต่อลมหายใจ เพื่อจัดซื้อตู้อบช่วยเหลือทารกคลอดก่อนกำหนดให้แข็งแรงและปลอดภัย สามารถซื้อสินค้าอัปไซเคิลได้ที่บริเวณนิทรรศการและทางออนไลน์ ผ่าน www.uob.co.th จนกว่าสินค้าจะหมด
ความร่วมมือกับ WISHULADA ในโครงการนี้ คาดว่าจะมีค่าก๊าซเรือนกระจกที่สามารถหลีกเลี่ยงได้จากหลุมฝังกลบเป็นจำนวน 1,965.30 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 137.646 ต้น ความพยายามนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านความยั่งยืนของธนาคารยูโอบี ซึ่งมุ่งจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายของธนาคารและคนรุ่นต่อไปในอนาคต
[1] ที่มา: Fashion Sustainability Report 2021 focus on change and Southeast Asia
ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ ความน่าเชื่อถือระดับ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ ความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA (tha) จาก ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์
ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศววรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค
เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสื่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 151 สาขาและเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 349 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))
วันที่ 26 เมษายน 2566
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สายงานบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
นิดา ภู่วนิชย์
อีเมล nida.puw@uob.co.th | โทร 02 343 4963