You are now reading:
อยากรีโนเวทบ้านเก่าให้เป็นบ้านในฝัน...แค่ใช้บ้านแลกเงิน
แค่ฝากเงิน ฟรีประกัน 7 โรคมะเร็งในผู้หญิง รับความคุ้มครองทุกระยะ ตั้งแต่ตรวจพบ เจอ-จ่าย-จบ สูงสุด 2 ล้านบาท
รายละเอียดคุณกำลังอยู่ที่ ลูกค้าบุคคลทั่วไป
You are now reading:
อยากรีโนเวทบ้านเก่าให้เป็นบ้านในฝัน...แค่ใช้บ้านแลกเงิน
ต่อให้ไม่มีเงินก้อน แต่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ก็เป็นจริงได้ ด้วยการยื่นขอสินเชื่อจากธนาคาร
แล้วถ้ามีบ้านแต่อยากหาเงินก้อน มารีโนเวทบ้านเก่าที่เริ่มโรยราให้เป็นบ้านใหม่ในฝัน หรือ ต่อเติมพื้นที่บางส่วนในบ้าน เพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตยุค New Normal ต้องทำอย่างไร?
ไม่ว่าโจทย์ของคุณคืออะไร... อย่าเพิ่งดับฝันตัวเอง เพียงเพราะไม่มีเงินก้อน หรือ ไม่อยากสร้างหนี้ก้อนใหม่ที่อาจพ่วงมาด้วยดอกเบี้ย เพราะมีอีกหนึ่งตัวช่วยง่าย ๆ ในการหาเงินแสนเงินล้านที่คนมีบ้าน อาจนึกไม่ถึง นั่นคือ การขอสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า สินเชื่อบ้านแลกเงินนั่นเอง
แล้วสินเชื่อบ้านแลกเงินคืออะไร เป็นการเปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อนอย่างไร? ผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ...
ยูโอบี (UOB) มีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก
ก่อนอื่นควรสำรวจตัวเองก่อนว่า จะรีโนเวทอะไร เพราะการรีโนเวทหรือซ่อมแซมบ้านนั้น แบ่งตามระดับความใหญ่เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.กรณีซ่อมแซมหรือปรับปรุงโครงสร้างอาคาร แต่ไม่ถึงกับรื้อบ้านทั้งหลัง เช่น รั้วบ้านพัง บ้านทรุด สร้างห้องขึ้นมาอีกห้อง ซึ่งต้องใช้
ผู้รับเหมา มีแปลนก่อสร้างอย่างจริงจัง ต้องทำเรื่องกับราชการ ทำให้การขอสินเชื่อเพื่อรีโนเวทต้องใช้เงินก้อนใหญ่
2.กรณีซ่อมแซมบ้านเล็กน้อยหรือตกแต่งเพิ่มเติม เช่น ทาสีห้อง เพดานซึม ผนังร้าว กระเบื้องไม่เรียบสนิท หรือทำกันสาดชำรุด
โดยไม่ว่าจะรีโนเวทแบบไหน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินแสนเงินล้านหรือเงินก้อน ก็สามารถกู้สินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยวิธีการยื่นขอสินเชื่อและเกณฑ์การประเมินของธนาคารไม่ได้แตกต่างจากการยื่นกู้เพื่อซื้อ/สร้างบ้านทั่วไป
สินเชื่อบ้านแลกเงิน ตามความหมายนั้นก็ตรงตัว คือ สินเชื่อที่อนุมัติให้กับคนที่มีบ้านแล้ว นำบ้านมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อน ด้วยการใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อกับธนาคาร โดยบ้านที่นำมาแลกเงินจะต้องเป็นบ้านที่ผ่อนหมดแล้ว โดยนิยามของคำว่า "บ้าน" ในที่นี้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาว์นโฮมเท่านั้น แม้แต่โฮมออฟฟิศ หรือคอนโดมิเนียมก็สามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อ เพื่อนำเงินก้อนไปเพิ่มสภาพคล่อง หรือ สานฝันของตัวเองได้ดั่งใจ ไม่ว่าคุณจะอยากตกแต่งบ้านใหม่ หรือ ซื้อเฟอร์นิเจอร์เซ็ตใหม่เข้าบ้านได้อย่างสบายใจ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อนได้ไม่ยากเย็น โดยสินเชื่อบ้านแลกเงินมีจุดเด่นอยู่หลายประการ...
อย่าลืมว่า...บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ในทำเลไพร์ม โลเคชั่น ก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อในวงเงินที่สูงตามไปด้วยนั่นเอง เพราะวงเงินที่ให้กู้นั้นจะขึ้นอยู่กับราคาประเมินของที่อยู่อาศัยที่นำไปเป็นหลักประกัน ณ เวลานั้นๆ
ธนาคารส่วนใหญ่จะมีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำและสูงสุดไว้ ตั้งแต่ 70-90% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ รวมถึงระยะเวลาในการผ่อนชำระมีตั้งแต่ 10-30 ปี
สำหรับคนที่ผ่านการผ่อนบ้านมาแล้ว คงเข้าใจไอเดียคอนเซ็ปต์การคิดดอกเบี้ยแบบนี้ดีว่า ยิ่งผ่อนไปเรื่อยๆ ภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ยิ่งเบาลง ไปตามเงินต้นที่ี่ลดลงเรื่อยๆ หรือ หากใครได้เงินก้อนจากโบนัสหรือปันผลจากการลงทุนมาโปะ ก็ยิ่งทำให้หมดหนี้ไวยิ่งขึ้น ที่สำคัญสามารถขอวงเงินที่น้อยกว่าวงเงินอนุมัติได้ เช่น ได้วงเงินอนุมัติมา 3 ล้านบาท แต่ต้องการใช้เงินเพียง 4 แสนบาท ก็สามารถขอกู้เท่าที่จะต้องการใช้ได้เช่นกัน
เห็นข้อดีของการเปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อนแล้ว หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ต้องเตรียมตัวอย่างไร โดยยูโอบี (UOB) ได้รวบตึงขั้นตอนมาได้แล้ว
1.เริ่มต้นจากศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขการให้สินเชื่อ ซึ่งแต่ละธนาคารมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้สินเชื่อแตกต่างกัน ดังนั้นควรเปรียบเทียบให้ดี เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ตอบโจทย์ชีวิตคุณที่สุด หรือสามารถมาปรึกษากับยูโอบี (UOB) ที่มีสินเชื่อบ้านแลกเงิน พร้อมข้อเสนอดีๆ ให้เลือก
2.เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่าธนาคารไหนคือตัวเลือกที่ใช่ ถึงเวลาเตรียมเอกสารให้พร้อม นอกจากเอกสารส่วนตัว (เช่น แบบฟอร์มขอสินเชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ฯลฯ) เอกสารทางการเงิน (เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน, เอกสารการเดินบัญชี ฯลฯ) ยังต้องเตรียมเอกสารเกี่ยวกับ "ที่อยู่อาศัย" ที่จะใช้เป็นหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดด้วย (ส่วนนี้สอบถามเพิ่มเติมได้กับธนาคารที่จะทำเรื่องกู้ว่าต้องการเอกสารอะไรบ้าง เพราะอาจมีต่างกันไปเล็กน้อย อยู่ที่ผู้กู้จะรีโนเวทใหญ่หรือเล็ก) หรือสำหรับใครที่ต้องการวงเงินกู้จำนวนมากและจะมีผู้กู้ร่วม ก็ต้องเตรียมเอกสารของผู้กู้ร่วมมาด้วยเช่นกัน
3.เอกสารพร้อมแล้ว มาถึงขั้นตอนยื่นเรื่องขอสินเชื่อและประเมินราคาหลักทรัพย์ หลังจากส่งเอกสารยื่นกู้พร้อมหลักฐานให้ธนาคารเรียบร้อย จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินราคาหลักทรัพย์ ติดต่อกลับมา เพื่อขอเข้ามาถ่ายรูปและสำรวจที่อยู่อาศัยที่ต้องการรีโนเวท ในขั้นตอนนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของ "ค่าธรรมเนียมการสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน" ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นแต่ละธนาคาร
4.ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารแต่ละแห่งนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้กู้จะเป็นฝ่ายตอบรับวงเงินกู้ หรือปรับวงเงินที่ได้รับให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ต้องใช้
5.เมื่อได้รับอนุมัติแล้วจะต้องไปเซ็นสัญญาเงินกู้ พร้อมทำเรื่อง ณ สำนักงานที่ดินซึ่งที่อยู่อาศัยตั้งอยู่ และเมื่อผู้กู้ชำระหนี้จนครบถ้วนทั้งหมดแล้วตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ผู้กู้และเจ้าหน้าที่ธนาคารก็จะต้องเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินอีกครั้ง เพื่อจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยแห่งนั้น